Featured

10 สถานที่เที่ยวเวียดนาม

ทัวร์เวียดนาม
หนึ่งของอาณาจักรจำปา
ด้วยสถาปัตยกรรมดั้งเดิม, วัฒนธรรมแบบดังเดิม รวมทั้งผลิตภัณฑ์ถักทอ ทำให้เมืองฮอยอันกลายเป็นสถานที่เที่ยวเวียดนามที่ได้รับความนิยมอันดับแรกๆเลยหละครับผม ที่สำคัญเมืองที่นี้มีขนาดเล็ก ทำให้นักเดินทางสามารถเดินดูได้ทั่วทั้งเมืองโดยไม่ต้องอ่อนล้าอย่างมาก ทางเท้าเล็กๆลมพัดเย็น ของเมืองโบราณที่นี้ ถูกรายล้อมไปด้วยสิ่งก่อสร้างโบราณ ดังเดิม
1) อ่าวฮาทดลอง (Ha Long Bay) – ท่องเที่ยวเวียดนาม
ฮาทดลองเบย์เป็นสถานที่เที่ยวเวียดนามที่ได้รับความนิยมชั้น 1 เลยก็ว่าได้ ด้วยน้ำสีเขียวมรกต บวกกับหินขนาดใหญ่ที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำทะเลเช่นเดียวกันกับมังกร ทำให้ทิวทัศน์ทัศนียภาพตรงนี้งดงามเหมือนกับอยู่ในโลกแฟนตาซีอย่างยิ่งจริงๆ . . . ที่ Halong Bay ที่นี้ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันออก 130 กม.จากกรุงฮานอย เต็มไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยๆที่มีป่าดงปกคลุมกว่า 2,000 เกาะ ซึ่งเกาะพวกนี้เต็มไปด้วย ถ้ำ แม่น้ำ สายธาร บางเกาะนั้นถูกกัดกร่อนจากทั้งยังน้ำและก็ลมทะเลมาเป็นพันๆปี กระทั่งเปลี่ยนมาเป็นเกาะทรงแปลกมองสวยสดงดงาม
2) เมืองฮานอย (Hanoi)
ในศตวรรตก่อนหน้านี้ กรุงฮานอยเปลี่ยนเป็นเมืองหลวงของเวียดนามที่มีความรุ่งโรจน์ขึ้นเป็นอย่างมาก ภายหลังการสู้รบเวียดนามจบลง . . . ในใจกึ่งกลางของเมืองมีสถานที่เที่ยวล้นหลามพิพิธภัณฑสถานด้านวัฒนธรรมของทวีปเอเชียแบบ outdoor รวมทั้งสถาปัตยกรรมของประเทศฝรั่งเศสที่ยังอยู่ในภาวะบริบูรณ์แม้ว่าจะผ่านการศึกเวียดมาและตาม นักเดินทางยังจะได้ช้อปปิ้งดูผลิตภัณฑ์ในตลาดที่ผู้คนคึกคกตลอดระยะเวลา , นั่งจิบกาแฟในร้านค้าสไตล์โบราณ รวมทั้ง เยี่ยมชมสถานที่สำคัญอย่าง มหาโรงแสดงละครโอเปร่า, บ้านประธานาธิปดี และก็มหาวิหารเซ็นท์ โจเซฟ
3) เมืองฮอยอัน (Hoi An)
เมืองฮอยอันตั้งอยู่ตรงกลางด้านใต้ของประเทศเวียดนามแล้วก็มีขอบเขตชิดกับสมุทรจีนใต้ ซึ่งฮอยอันนั้นเป็นเมื่องโบราณที่ยังมีความงดงาม เช่นเดียวกันกับเมื่อ 2,000 ปีที่ผ่านมา ยุคที่ยังเป็นส่วน
4) เมืองเว้ (Hue)
ตั้งอยู่ที่ Bank ของแม่น้ำน้ำหอมในศูนย์กลางของประเทศเวียดนาม เมืองเว้นั่นเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักร Nguyen มาก่อน . . . ในตอนนี้ถึงแม้ว่า เว้ จะไม่เป็นเมืองหลวงก็ตาม แม้กระนั้นสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างแล้วก็ร่องรอยด้านวัฒนธรรมยังคงสะท้อนถึงความโหฬารในอดีตกาลของเมืองนี้
5) เมืองซาขว้าง (Sapa)
เมืองซาขว้างรายล้อมไปด้วยเทือกเขาสูง, ทุ่งนาข้าว, รวมทั้งความธรรมชาติ อยู่ทางทิศตะวันออกเชียงเหนือของประเทศเวียดนาม . . . ซาปานั้นเป็นเมืองที่สงบเงียบ หลายครั้งถูกใช้ให้เป็นฐานของกิจกรรมเดินป่าในเทือกเขา Hoang Lien Son , การดูไร่ข้าว แล้วก็ เมืองดั้งเดิมทางด้านวัฒนธรรม
6) เมืองญาจาง (Nha Trang) – สถานที่เที่ยวเวียดนาม
เมืองญาจางตั้งอยู่ในจุดที่มีอ่าวที่งามที่สุดของทวีปเอเชีย เรียบริมหาดของเวียดนามตอนใต้ ซึ่งญาจางนั้นได้รับความนิยมมากมายของนักเดินทางทำให้มี รีสอร์ทหาดทรายขึ้นเรียงรายกันตามหาดทราย นอกเหนือจากริมหาดจะงดงามแล้ว ยังมีเกาะ, เทือกเขา และก็ริมฝั่งหลายแห่งที่สวยสดงดงามมากมายอีกด้วย กระทั่งทำให้ตรงนี้แปลงเป็นสถานที่สำหรับท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญมากของทวีปเอเชียทิศตะวันออกเชียงใต้ นอกเหนือจากนั้นตรงนี้ยังมีสวนสนุกรวมทั้งสวนน้ำให้บริการนักท่องเที่
7) ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง (Mekong Delta)
ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง มีชีวิตชีวาของผลหมากรากไม้ ผลิตภัณฑ์อีกทั้งสดและไม่สด แล้วก็บรรยากาศของชาติบ้านเมืองแบบสมัยก่อน ซึ่งลำดับที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโข่งที่นี้เป็นศูนย์กลางทางการเกษตรที่สำคัญที่สุดของเวียดนามเลย เพราะเหตุว่าการกสิกรรมตรงนี้ปลูกพืชได้ผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งกว่าที่อื่นๆมากมาย
8) เมืองโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City)
เมืองโฮจิมินห์ตั้งอยู่เรียบไปกับแม่น้ำแม่โขงทางตอนใต้ของเวียดนาม เมืองที่นี้นั้นรู้จักกันอย่างดีเยี่ยมในชื่อ ไซ้ง่อน (Saigon) รวมทั้งถูกใช้เป็นเมืองหลวงของดินแดนทางตอนใต้ของประเทศเวียดนามในตอนการสู้รบเวียดนาม ซึ่งเมืองโฮจิมินห์ที่นี้เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนามแล้วก็ยังก้าวหน้าเป็นชั้น 1 ของประเทศเท่าๆกับเมืองหลวงฮานอยอย่างยิ่งจริงๆ
9) พระราชวังหมีเซิน (My Son)
พระราชวังที่นี้อยู่ทางตอนใต้ของเขตสมุทรของประเทศเวียดนามใกล้กับหมู่บ้าน Duy Phu ซึ่งสำคัญมากทางโบราณคดีวิทยา หมู่บ้านนี้รู้จักกันในชื่อ My Son (ไม่ใช่มายซัน ลูกชายนะ / อ่านว่าหมีเซิน) ซึ่งสถานที่ที่นี้เป็นสถานที่ที่สำคัญมากทางโบราณคดีวิทยาที่เด่นเป็นลำดับต้นๆของทวีปเอเชียทิศตะวันออกเชียงใต้
10) เมืองด่าทอลัด (Dalat)เมืองแก้วมีลักษณะอากาศที่เย็นแจ่มใสเกือบตลอดทั้งปี แถมด้วยภาวะทำเลที่ตั้งที่สวย ต้นไม้ดอกไม้นานาสีสัน ซึ่งนั่นเองก็เป็นเหตุผลว่าเพราะอะไร แก้วเคยถูกใช้โดยจักรพัตราธิราชที่เวียดนามรวมทั้งชาวประเทศฝรั่งเศสสำหรับใช้เป็นที่พักร้อนพักผ่อน
Featured

10 สิ่งที่จะต้องทราบและก็ควรจะทำเมื่อท่องเที่ยวในประเทศพม่า

ทัวร์พม่า
1. จัดเวลามากยิ่งกว่า 1 อาทิตย์สำหรับการท่องเที่ยวท่องเที่ยวดู
การเที่ยวประเทศพม่าจำเป็นจะต้องใช้เวลามากยิ่งกว่า 1 อาทิตย์ ด้วยการเดินทางที่ยังไม่สบายนักและก็ทางที่ยาวไกล 1 อาทิตย์ดูเหมือนจะรีบเร่งเกินความจำเป็นรวมทั้งยังท่องเที่ยวได้ไม่ทั่ว ถ้าหากคุณมีเวลา 2 หรือ 4 อาทิตย์ให้คิดแผนทางท่องเที่ยวบริเวณสถานที่สำหรับท่องเที่ยวหลัก 4 ที่ โดยการบินไปลงเมืองใหญ่สักที่และก็บินกลับจากอีกเมืองหนึ่ง
2. สัมผัสประวัติศาสตร์ พร้อมๆกับชอปแล้วก็รับประทานให้กระจัดกระจายในปิ้งกุ้ง
ปิ้งกุ้ง เป็นเมืองขนาดกระชับที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีสถาปัตยกรรมจากสมัยอาณานิคมกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกมุมเมืองชักชวนให้คิดถึงอดีตกาลที่ประเทศนี้อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ในช่วงเวลาที่มหาเจดีย์ชเวดากองก็ส่องประกายสีทองคำงามเป็นเครื่องหมายของศาสนาพุทธอันเจริญก้าวหน้า ตรงนี้ชุมชนคนจีน เนปาล แล้วก็ประเทศอินเดียตั้งอยู่ใกล้เคียงชุมชนชาวประเทศพม่า ที่พักราคาเริ่มที่ 3,xxx บาท
3. หลงทางในวัดที่พูกาม
พูกาม ดินแดนลึกลับเหนือเวลานี้เป็นที่ตั้งของสงฆ์กว่า 2,000 แห่งที่ทำขึ้นตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 9 ตั้งแต่วัดขนาดใหญ่ที่สง่างาม ไปจนกระทั่งวัดเล็กๆที่สร้างละเอียดลออบรรจง ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะรู้สึกราวกับกำลังเดินทางย้อนเวลา ตรงนี้ใช้การเดินทางด้วยรถม้าเป็นหลัก (โดยประมาณ 600 บาทต่อวัน) แต่ว่าการขี่จักรยาน (โดยประมาณ 90 บาทต่อวัน) เป็นแนวทางเดินทางที่เยี่ยมที่สุดสำหรับในการท่องเที่ยวแบบเต็มวันและก็ปฏิบัติตัวกลมกลืนไปกับผู้คนนับร้อย ที่พักในประเทศพม่า ราคาเริ่มที่ 5xx บาท
4. ศึกษาและทำการค้นพบความเงียบสงบและก็ขนบธรรมเนียมเริ่มแรกที่ทะเลสาบอินเล
ทะเลสาบอินเล (ใหญ่เป็นชั้นสองของเมียนมาร์) เป็นดังกระจกส่องสีน้ำเงินสะท้อนภาพอันสวยของหมู่บ้านเล็กๆเขื่อนที่สร้างด้วยมือรวมทั้งลำคลองที่ใช้คนขุด ตรงนี้ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมดั้งเดิม (และชาวเลที่พายเรือด้วยเท้าด้านเดียว) บรรยากาศสงบเงียบ รวมทั้งการค้าขายแบบเริ่มแรก ทั้งยังมีตลาดผลไม้ อุตสาหกรรมสิ่งทอ รวมทั้งสวนองุ่นที่อยู่ไม่ไกล แม้ต้องการดูทะเลสาบแบบสงบไม่ต้องฝ่าผู้คนพวกเราขอเสนอแนะให้รีบไปแต่เช้า
5. ลิ้มรสของอร่อย รวมทั้งหัวเราะร่า ขณะท่องไปในเมืองมัณฑะเลย์อันสวยงาม
มัณฑะเลย์ เป็นเมืองที่มีกิจกรรมอันนานาประการให้ทำจนถึงล้นเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการดูทิวทัศน์เมืองจากยอดดอยมัณฑะเลย์ ภายหลังที่เร่ร่อนทัวร์ไปในราชวัง เจดีย์ แล้วก็หนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลิ้มรสของกินใหม่ๆจากร้านหาบเร่สองข้างทางซึ่งมีเยอะแยะมากซะจนน่าทึ่งที่กระจายตัวอยู่ทั้งเมือง รวมทั้งหัวเราะให้ลั่นกับญาติหนวดนักเล่นตลกการบ้านการเมืองที่จัดแจงแสดงเฮฮาวันแล้ววันเล่าในบ้านของครอบครัว ตั๋วเรือบินไปมัณฑะเลย์ ราคาเริ่มที่ 3,xxx บาท
6. ไปเดินป่าหลายๆวัน แล้วก็นั่งรถไฟผ่านสะพานที่สูงที่สุด
ถ้าหากการเดินป่าแบบสามวันจากสีป้อไปลาชิวยังตื่นเต้นน้อยเกินไป ให้เพิ่มรายการนั่งรถไฟสายที่สร้างโดยอังกฤษผ่านสะพานรถไฟก๊อกน้ำเต๊กซึ่งเป็นสะพานรถไฟที่สูงที่สุดในประเทศพม่า รถไฟสายที่จะทำให้ท่านใจเต้นระทึกนี้ผ่านเมืองพินอูลวินซึ่งเป็นเมืองอาณานิคมเก่า เมื่อรถไฟไปถึงสะพานแล้ว อย่าลืมดูลงมาให้ได้ เพราะเหตุว่าความสูงที่น่าหวาดเสียวจะก่อให้คุณลืมไม่ลงไปอย่างยิ่งจริงๆ
7. ลงใต้ไปเยี่ยมเกาะสรวงสวรรค์ หมู่เกาะมะริด เมียนมาร์
เนื่องจากเขตทางด้านเหนือหลายเมืองยังไม่เปิดให้นักเดินทางเดินทางเข้าไปได้ ทางด้านใตนก็เลยเป็นที่ๆเข้าถึงได้ง่ายดายกว่าด้วยเหตุว่าได้เปิดให้ท่องเที่ยวดูได้มากกว่า 1 ปีแล้ว มะละแหม่งแล้วก็ทวายเป็นทางที่ไม่มีอะไรเทียบเคียงได้และก็ให้บรรยากาศแคว้นสุดๆซึ่งจะนำคุณไปยังเมืองมะริดอันน่ามหัศจรรย์ เมืองนี้เองเป็นประตูสู่หมู่เกาะมะริดที่งามไม่น่าเชื่อโดยคุณสามารถคิดแผนล่วงหน้าเพื่อจองทัวร์ล่องเรือแล้วก็ทัวร์แบบค้างแรมหลายๆที่พักในเมืองมะริด ราคาเริ่มที่ 5xx บาท
8. เลือกว่าจะไปตอนไหนดี
คุณมีสองลู่ทางเป็น ฤดูท่องเที่ยวในต.ค.ถึงก.พ.ซึ่งอากาศกำลังสบายแต่ว่ามีนักท่องเที่ยวล้นหลามแล้วก็ตัวเลือกที่พักก็เหลือน้อย หรือจะไประหว่างก.พ./เดือนมีนาคม ถึง เดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นตอนๆที่นักเดินทางน้อยกว่าแม้กระนั้นอากาศก็ร้อนอย่างมาก ทดลองเลือกแบบที่ใช่กันเลย!
9. ดอลล่าร์แบงค์ใหม่ๆสำหรับจ่ายโฮเต็ล อื่นๆจ่ายด้วยเงินจ๊าด
ในเมียนมาร์คุณจำเป็นต้องใช้เงินดอลล่าร์แบงค์ใหม่ๆซึ่งหาได้จากแหล่งแลกเงินใกล้บ้าน หรือในจังหวัดกรุงเทพมหานคร แล้วนำดอลล่าร์ไปแลกเงินจ๊าดถึงที่เหมาะท่าอากาศยาน เกสท์เฮ้าส์ หรือแบงค์ในประเทศพม่า เงินดอลล่าร์ใช้สำหรับจ่ายค่าที่พัก ส่วนเงินจ๊าดใช้จ่ายเงินค่าอื่นๆตามทาง เป็นต้นว่า ของกิน ค่าพาหนะ และก็ของฝาก ในประเทศพม่ามีตู้เครื่องรับฝากถอนเงินอัตโนมัติเฉพาะในเมืองใหญ่
10. ร้องฆ่าเวลาขณะเดินทาง รถไฟในประเทศพม่า
รักจะท่องเที่ยวเมียนมาร์จำต้องศึกษาที่จะสนุกสนานไปกับการเดินทางบนรถบัสอันช้านาน เพราะเหตุว่าเป็นการขนส่งหลักที่ใช้เดินทางไปทั่วราชอาณาจักร รถบัสหลายคันจะออกเวลาบ่ายแก่ๆโดยคุณจะไปถึงที่หมายในตอนเวลาค่ำ หรือรุ่งสว่างพรุ่งนี้ บนรถบัสชอบมีคาราโอเกะไว้บริการและก็บางคันก็เปิดคาราโอเกะตั้งแต่รถยนต์ออกไปจนกระทั่งเป้าหมายอย่างยิ่งจริงๆ
 
Featured

เกาะเจจู (Jeju Island) เกาะที่ความโรแมนติก

ทัวร์เกาหลี
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มรดกโลกถ้ายังคิดไม่ออกท่องเที่ยวไหนดีพวกเรามีสถานที่เที่ยวเกาะเชจูหรือเจจู(Jeju)เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด และก็เป็นเมืองตอนใต้ในเขตของประเทศเกาหลีใต้ เกาะที่นี้เป็นสถานที่สำหรับท่องเที่ยวแล้วก็เมืองฮันนีมูนที่ได้รับความนิยมด้วยเหตุว่ามีอากาศกำลังสบายตลอดปีเป็นไม่เหน็บหนาวในช่วงฤดูหนาวอย่างเช่นเมืองอื่นของประเทศเกาหลีใต้ และไม่ร้อนมากในฤดูร้อน อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ราว 15 องศา รวมทั้งในฤดูร้อนอยู่ที่ 22-26 องศา นอกเหนือจากนี้เกาะเชจูยังเป็นเขตมรดกโลก เนื่องจากเป็นเกาะที่เกิดขึ้นจากการปะทุของปล่องภูเขาไฟ มีธรรมชาติงดงาม มีอัศจรรย์ถ้ำลาวา และก็สถานที่เที่ยวอีกทั้งทางธรรมชาติแล้วก็วัฒนธรรมอีกเยอะแยะหลายที่ แล้วก็ที่สถานที่แรกที่ผมจะพาท่านไปพบเป็น
1. ศูนย์การแสดงสัตว์น้ำ (Hanwha Aqua Planet Jeju) เป็นพิพิธภัณฑสถานที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่ทัวร์ประเทศเกาหลีจำต้องมาเยี่ยม เป็นศูนย์การเล่าเรียนทางทะเลเกี่ยวกับธรรมชาติรวมทั้งสิ่งมีชีวิตใต้สมุทรที่นำเสนอไว้ให้ดูอย่างงดงาม มีการจัดแจงแสดงของสัตว์น้ำให้ดูอีกด้วย นอกจากนั้น ยังมีอุโมงค์ใต้น้ำให้คุณได้เดินดูการใช้ชีวิตของสัตว์น้ำใน่ระดับน้ำลึกราวๆ 80 เมตร เหมือนท่านไปอยู่ใต้น้ำเอง รับประกันว่าตื่นตาตื่นใจอย่างแน่แท้
2. ทัวร์เรือดำน้ำซกวิโพ (Seogwipo Submarine) เป็นกิจกรรมหนึ่งของเกาะเชจู ที่พานักท่องเที่ยวทัวร์ประเทศเกาหลีมุดน้ำเพื่อตรวจโลกใต้สมุทรที่เต็มไปด้วยสัตว์น้ำหลายประเภท หรือท่านที่ไม่สบายที่จะลงไปมุดน้ำ ก็สามารถทัวร์เรือดำน้ำซอกวิโพ ดูดซับมารีน ที่พาท่านตรวจสอบโลกใต้น้ำอย่างสนุก ท่านจะได้มองเห็นความสวยสดงดงามของเกาะเชจูใต้น้ำ นอกเหนือจากการที่จะมีปลานานาประการสายพันธุ์แล้ว ยังมีต้นปะการัง และก็ซากเรือที่จมอยู่ใต้น้ำด้วย
3. หมู่บ้านวัฒนธรรมซองอับ (Seongeup Folk Village) เป็นหมู่บ้านที่สร้างด้วยหินหลังคามุงด้วยฟาง ล้อมรั้วด้วยแนวกำแพงหินแบบโบราณ เป็นคุณสมบัติเฉพาะของเกาะเชจู ท่านจะได้ดูวิถีชีวิตของชนท้องที่อย่างแท้จริง
4. พิพิธภัณฑสถานชาโอซุลลิค (O’Sulloc Green Tea Farm and Museum) เป็นสถานที่นำเสนอประวัติความเป็นมาของการปลูกชาเขียวประสิทธิภาพสูง ท่ามกลางทิวภาพอันสวยของไร่ชา มีการแสดงเครื่องไม้เครื่องมือวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อการชงชา ถ้วยชา แล้วก็ยังมีชาให้นักเดินทางทัวร์ประเทศเกาหลีได้ทดลองลอง มีร้านขายของฝากที่ทำมาจากชา ตัวอย่างเช่น ชาผง ชาแต่งรสสำเร็จรูป รวมทั้งสมุนไพรต่างๆ
5. น้ำตกชอนจิยอน (Cheonjeyeon Falls) เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาเป็นสายยาวจากผาในป่าลงสู่แอ่งน้ำระดับล่างอย่างงดงามทำให้นักเดินทางทัวร์ประเทศเกาหลีอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปในป่าธรรมชาติที่สมบูรณ์บริบูรณ์เพื่อสัมผัสกับสายน้ำที่ใสเย็นรวมทั้งงดงามที่นี้
6. อุทยานแห่งชาติเทือกเขาฮัลลาซาน (Hallasan National Park) เป็นเทือกเขาที่สูงที่สุดในประเทศประเทศเกาหลีใต้ มีความสูงถึง 1,950 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เป็นสถานที่เที่ยวที่งามทางธรรมชาติที่ติดอันดับที่ 182 ของประเทศเกาหลี แล้วก็ยังเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติอีกด้วย
7. พระราชวังแก้ว (Glass Castle) เป็นพระราชวังที่สร้างด้วยแก้วหลายประเภท มีการตกแต่งและก็นำเสนอแก้วในลักษณะต่างๆในร่มแล้วก็ที่โล่งแจ้ง แช่น สะพานแก้ว น้ำตกแก้ว เขาวงกต แล้วก็ปะติเตียนมากมายรรมจากแก้วอีกเยอะมาก
8. หินปู่ หรือ โทลฮารูบัง (Dol Harubang) เป็นเครื่องหมายของเกาะเชจู ที่มีความเชื่อกันว่าจะรอปกป้องรักษาคุ้มครองปกป้องให้ให้รอดอันตรายจากภูตผีปีศาจ
9. สวนเชจู เลิฟแลนด์ (Jeju Love Land) เป็นสวนสาธารณะให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษาโดยผ่านงานศิลปะที่ใช้ความริเริ่มคิดสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างงดงาม แบ่งเป็น 2 ส่วนเป็น ส่วนที่อยู่ที่โล่งแจ้งรวมทั้งส่วนที่อยู่ในร่ม มีการจัดแจงแสดงรูปปั้นปะติเตียนมากมายรรมแสดงการร่วมเพศของคนเราแล้วก็เรื่องราวความรักมากยิ่งกว่า 140 ชิ้น เป็นสถานที่เที่ยวสำหรับคนแก่สุดที่รักในงานศิลปะ